ตำรวจเรียกสอบพนักงานทุกคน ในฟิตเนตชื่อดังย่านนนท์ ปมนักธุรกิจโดนฉกทรัพย์ 10 ล้านบาท แต่ผู้จัดการปัดไม่สะดวก
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 13 ม.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังผ่านมา 3วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี และชุดสืบสวนจังหวัด ได้เรียกสอบพยานทำประวัติ พนักงานฟิตเนตชื่อดัง ทั้งหมดบนชั้น 15 ที่เกี่ยวข้อง ของห้างสรรพสินค้าย่านงามวงศ์วาน ซึ่งมีลูกค้าหนุ่มไฮโซที่เป็นเจ้าของโรงงาน ถุงคุกกี้ซีลกลาง ซองคุกกี้ซีล นักธุรกิจอสังหาฯเป็นสมาชิกเมมเบอร์เข้ามาใช้บริการออกกำลังกาย แล้วถูกมือดีที่มีกุญแจสำรองแอบเปิดล็อกเกอร์ที่เก็บกระเป๋าใส่ทรัพย์สินมีค่าส่วนตัวเอาไว้ อาทิ พระเครื่องสมเด็จวัดระฆังฯ ครุฑ หลวงพ่อโต เลี่ยมทองทั้ง 3 องค์ เลส-แหวนเพชร สร้อยทอง นาฬิกาโรเหล็กฝั่งเพชร กุญแจรถยนต์ห้อยกับพวงกุญแจแบนด์เนม ได้ถูกขโมยหายไปทั้งกระเป๋ามูลค่ากว่า 10 ล้านบาท จากในที่เก็บของฟิตเนตชื่อดังแห่งนี้
ซึ่งได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า ก่อนหน้าได้มีทรัพย์สินลูกค้าชาย ที่เข้ามาใช้บริการพึ่งสูญหายไปเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาทั้งสร้อยทอง พระเครื่อง และอื่นๆ รวมกันกว่า 70,000 บาท ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความไปแล้ว และในจุดล็อกเกอร์เก็บของทรัพย์สินมีค่าของลูกค้าดังกล่าว ไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งเอาไว้ ทั้งที่โซนห้องน้ำได้แยกอยู่ต่างหากออกมาเป็นสัดส่วนจากกัน โดยสังเกตว่าในระยะเวลาห่างกันเพียงเดือนกว่า ตั้งแต่ธันวาคม 2565 ถึง มกราคม 2566 มีทรัพย์สินลูกค้าสูญหายไปแล้วหลายราย จนกระทั่งวันที่ 10 ม.ค.2566 ไฮโซหนุ่มเป็นรายล่าสุดที่มีทรัพย์สินสูญหายไปกว่า 10 ล้านบาท
ล่าสุดวันนี้ (13 ม.ค.) เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณทิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกูล ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ รองผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี พร้อม ร.ต.อ.ยงยุทธ สังข์สิริยะกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้ขึ้นไปตรวจดูบริเวณล็อกเกอร์เก็บของบนฟิตเนตแห่งนี้อีกครั้ง พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกอยู่ภายในที่เกิดเหตุ โดยมีผู้จัดการสาวที่ดูแลสถานที่ออกกำลังกายชื่อดังยืนเจรจาพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วย หลังขอเรียกสอบพยานเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ฟิตเนตแห่งนี้ ทุกคนเพื่อทำประวัติ เปรียบเทียบรอยนิ้วมือแฝง กับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างลายนิ้วมือตอนเกิดเหตุอย่างละเอียดไปแล้ว
ขณะที่ผู้จัดการสาวที่ดูแลสถานที่ฟิตเนตชื่อดังแห่งนี้ ได้ตอบปฎิเสธกลับทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนว่า พนักงานของตนยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลใดๆ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะให้ข้อมูลอีกครั้งในภายหลัง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เพียงแค่เก็บข้อมูลฮาร์ดิสที่ใช้บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในเครื่องบันทึกข้อมูล หรือ DVR เพิ่มเติม ไปพร้อมตรวจสอบภาพคลิปในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนจะเรียกสอบพนักงานฟิตเนตกันต่ออีกครั้งในภายหลัง