กรณีวันที่ 23 เมษายน 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รอง ผอ.ศพดส.ตร. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ร่วมกับ สน.หัวหมาก แถลงข่าวการจับกุมนายอดิเรก หรือหมี (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาขับแท็กซี่หลอกลวงหญิงสาวชาวเมียนมา อายุ 17 ปี ว่าจะพาไปสมัครงาน
แต่ผู้ต้องหากลับพาไปข่มขืนกระทำชำเราที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใกล้โรงงานผลิตกล่องเมล่อน ฐานรองเมล่อน โดยอ้างว่าจะพาไปตรวจ ATK จับผู้เสียหายใส่กุญแจมือและข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย มีการถ่ายภาพขณะข่มขืนกระทำชำเราเก็บไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือ และยังได้ลักเอาโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่องและเงินสด 500 บาทของผู้เสียหายไปอีกด้วย ก่อนขับรถพาผู้เสียหายไปส่งให้ตำรวจจับกุมตัว เนื่องจากเป็นบุคคลต่างด้าวที่ไม่มีหนังสือเดินทาง ตามที่สื่อมวลชนและโซเชี่ยลมีเดียนำเสนอ ไปแล้ว นั้น
จากการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนปากคำพยานบุคคล และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ในความผิดฐาน พรากผู้เยาว์อายุเกินกว่า สิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วยเพื่อการอนาจาร, ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญ ด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และได้กระทำโดยให้ผู้ถูกกระทำเข้าใจว่าผู้กระทำมีอาวุธปืน, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, มีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต