รอผลชันสูตรนานนับ 6 เดือน จับเพื่อนบ้านฆ่าโหดรัดคอข่มขืนสาวใหญ่หน้าตาดี วัย 42 ปี เสียชีวิตคาบ้านพัก แสร้งเป็นพลเมืองดีขี่ จยย. ไปแจ้งตำรวจเอง
วานนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุสาวใหญ่ อายุ 42 ปี เป็นเจ้าของร้านขาย ซองซิปรูด ซองซิปรูดพิมพ์ลาย ชาว ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม เสียชีวิตภายในบ้านพัก เมื่อคืนวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ภายหลัง ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม พร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบชันสูตรศพ พบร่องรอยการทุบกระจกข้างบ้านพัก
ส่วนศพนอนเสียชีวิต ในโซฟาชั้นล่างของบ้าน 2 ชั้น แต่พบพิรุธมีสายไฟประมาณ 1 เมตร ตกในที่เกิดเหตุ รวมถึงผ้าขนหนู นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ คือ นายคึกฤทธิ์ อายุ 42 ปี เพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร หลังเกิดเหตุ
พร้อมอ้างว่ามีความสัมพันธ์กันส่วนตัว จนกระทั่งหลังเกิดเหตุไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อผู้ตายได้ จึงพยายามไปพบที่บ้าน ก่อนที่จะทุบกระจกเข้าไปช่วยเหลือ หลังพบว่าผู้ตายใช้ผ้าขนหนูผูกคอตายในห้องน้ำ จึงพยายามหาทางช่วยชีวิตแต่ไม่สำเร็จ
โดยทางตำรวจพบหลักฐาน รวมถึงคำให้การขัดแย้งกันหลายประเด็น เป็นที่มาของการส่งศพผู้ตายไปชันสูตร หาสาเหตุโดยละเอียด เพื่อประกอบการดำเนินคดี รวมถึงญาติผู้ตายติดใจการเสียชีวิต เชื่อว่าถูกฆาตกรรม
ล่าสุด ทางด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจทีมสืบสวน ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานโดยละเอียด พบพิรุธหลายจุด ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง
รวมถึงมีผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ ที่มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนหลังเกิดเหตุ อีกทั้งยังให้การว่า พยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้ตายหลังพบว่าคิดสั้นฆ่าตัวตายผูกคอตายในห้องน้ำ แต่ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อ
จนกระทั่งรอผลชันสูตรนานกว่า 6 เดือน จนเป็นที่แน่ชัดยืนยันเป็นการฆาตกรรม พร้อมมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงผู้กระทำผิด ใช้สายไฟรัดคอผู้ตาย นอกจากนี้ยังพบหลักฐานน้ำอสุจิผู้ต้องหา ในที่เกิดเหตุ และในช่องคลอดผู้ตาย เชื่อว่ามีการขืนใจผู้ตายก่อนฆาตกรรม
พร้อมรวบรวมหลักฐานเสนอศาลจังหวัดนครพนม ออกหมายจับ ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ คือ นายคึกฤทธิ์ อายุ 42 ปี เพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิต ที่มีการตรวจสอบเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พบปมสัมพันธ์ส่วนตัว และการหึงหวงจนเกิดการฆาตกรรม และจัดฉากเพื่อหนีผิด
สุดท้ายหลักฐานชัดเจนหนีไม่รอด จึงได้ดำเนินคดีจับกุมตามหมายศาลจังหวัดนครพนม ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำให้เสียทรัพย์ บุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานเกี่ยวข้องชัดเจน เพียงพอเอาผิด พร้อมนำตัวเสนอฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม โดยทางศาลจังหวัดนครพนม คัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นคดีฆาตกรรม และคุมตัวไปส่งที่เรือนจำกลางนครพนม เพื่อรอขบวนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป