หญิงไทยกลับจากทำงานที่ประเทศกาตาร์ ติดฝีดาษลิงรายที่ 6 ของประเทศ ล่าสุดอาการดี ทีมแพทย์ดูแลใกล้ชิด เผยกลับบ้านเกิดที่อำเภอพยัคฆภูมิพิสัยด้วยอาการมีตุ่มน้าใส เข้าโรงพยาบาลหมอตรวจพบให้กักตัวทันที ด้านผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 รายซึ่งเป็นบุคคลในครอบครัวกักตัวดูอาการ 21 วัน ยังไม่มีอาการ 30-08-65
นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ตามที่ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้แถลงข้อมูล เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ว่า พบผู้ติดเชื้อฝีดาษวานรยืนยันรายที่ 6 ของประเทศไทย เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 21 ปี มีภูมิลำเนาที่อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม มีประวัติไปประกอบอาชีพพนักงานร้านนวดแผนไทยที่ประเทศกาตาร์ โดยในวันที่ 10 สิงหาคม 2565 เริ่มมีตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ วันที่ 21 สิงหาคม 2565 เดินทางกลับมาประเทศไทย และวันที่ 22 สิงหาคม 2565 เดินทางกลับถึงบ้านที่ จ.มหาสารคาม โดยในวันเดียวกันได้เข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัย เนื่องจากมีตุ่มน้าใส และอาการป่วยอื่นร่วมด้วยได้เข้าพบแพทย์ โดยแพทย์ได้ตรวจและสำรวจร่างกายพบเข้าได้กับนิยามผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานร จึงได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจ และมีผลตรวจยืนยันพบเชื้อโรคฝีดาษวานร โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565
ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรค ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม แจ้งข้อมูลอาการผู้ป่วยรายดังกล่าว เริ่มมีอาการตั้งแต่อยู่ที่ต่างประเทศ ขณะเดินทางผู้ป่วยแสดงอาการผื่นเพียงเล็กน้อย และอยู่ในร่มผ้า
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างเดินทางผู้ป่วยมีการป้องกันตนเอง โดยการสวมหน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่างจากผู้โดยสารคนอื่นๆ และเมื่อเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังและได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ป่วย หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ได้เร่งดำเนินการควบคุมเพื่อจำกัดการแพร่กระจายของโรค โดยแยกผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ห้องแยกโรค ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม เป็นต้นมา และให้ทีมสอบสวนโรคค้นหาผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน พร้อมทั้งประเมินความเสี่ยง ของผู้สัมผัสจากการสอบสวนโรค โดยพบผู้สัมผัส รวม 28 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 4 ราย ซึ่งเป็นบุคคลในครอบครัว 3 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ 1 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำจำนวน 24 ราย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดสุขภาพของผู้ป่วยโดยรวมถือว่าปลอดภัยดี มีแสดงอาการเพียงเล็กน้อย คือ ปวดเมื่อยตามตัว มีตุ่มหนองขึ้น 1 จุด อยู่ในบริเวณร่มผ้า มีอาการคัน ไม่มีไข้ ไม่มีต่อมน้ำเหลืองโต ส่วนในกลุ่มเสี่ยงที่อาจสัมผัสใกล้ชิด คาดว่าจะมีจำนวนไม่มาก เนื่องจากในระหว่างเดินทางผู้ป่วยมีการป้องกันตนเอง โดยการสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างจากผู้โดยสารคนอื่นๆ ส่วนกลุ่มเสี่ยงจากการค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสทั้งหมด 28 คน แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 รายซึ่งเป็นบุคคลในครอบครัว จำนวน 3 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การรักษา จำนวน 1 ราย ทั้งหมดไม่มีอาการ ส่วนในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 24 ราย จะเป็นบุคคลในครอบครัว จำนวน 7 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การรักษา จำนวน 9 ราย ผู้สัมผัสร่วมยานพาหนะ จำนวน 6 ราย และกลุ่มอื่นๆอีก 2 รายเป็นพนักงานขาย กล่องใส่ส้ม กล่องเจาะรู ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดไม่มีอาการ แต่เจ้าหน้าที่ให้กักตัวและสังเกตอาการก่อนเป็นเวลา 21 วัน เพื่อความปลอดภัย ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวแนะนำ ขอประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวสารที่ไม่ถูกต้องเผยแพร่ตามโซเชียลมีเดีย และขอเน้นย้ำว่า โรคฝีดาษวานรไม่ได้ติดต่อง่ายหรือมีความรุนแรง ส่วนใหญ่เชื้ออยู่ที่ตุ่มหนองบริเวณผิวหนังขณะป่วย จึงขอแนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้เดินทางไปหรือกลับจากประเทศที่มีการระบาดโรคฝีดาษวานร หรือพำนักอาศัยที่ต่างประเทศ ให้เลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองบริเวณร่างกายสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งจากร่างกายผู้อื่น ไม่สัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ ไม่มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก รับประทานอาหารปรุงสุกสะอาดและไม่สัมผัสสัตว์ป่วย หากผู้ที่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร หรือมีอาการสงสัย เช่น มีผื่นตามลำตัว เป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตุ่มตกสะเก็ด หลังจากมีไข้ เจ็บคอ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น สามารถเข้ารับการตรวจเชื้อได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านท่านได้ทันที