ย้อนดูคำพูดสามี “น้องนุ่น” เข้าแจ้งความภรรยาวิ่งขึ้นแท็กซี่หายตัวปริศนา แม่ยายยังเอ๊ะ สุดท้ายสารภาพลงมือฆ่าแม่ของลูก
ความคืบหน้า คดีการหายตัวไปของ น.ส.ชลลดา หรือ น้องนุ่น อายุ 27 ปี ก่อนสุดท้ายนายศิริชัย อายุ 33 ปีเจ้าของร้านขาย กล่องไปรษณีย์ กล่องพัสดุ สามีถูกตำรวจเค้นสอบอย่างหนักจนยอมเปิดปากรับสารภาพ ว่าได้พลั้งมือฆ่าภรรยาสาวก่อนขับรถนำศพไปเผาอำพรางคดีที่ จ.ปราจีนบุรี
ผัวสารภาพแล้ว ฆ่า “น้องนุ่น” ยอมรับมีปากเสียง ก่อนเอาศพไปทิ้งที่ปราจีนบุรี
ก่อนหน้านี้ นายศิริชัย อายุ 33 ปี ได้เข้ามาแจ้งความไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า น.ส.ชลลดา หรือ น้องนุ่น ภรรยา อายุ 27 ปี หายตัวไป บริเวณ ถ.เลียบคลองประปา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ. 67 เวลาประมาณตี 3 หลังจากกลับมาจากงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน และมีปากเสียงกัน ก่อนจะลงจากรถแล้วขึ้นแท็กซี่ไป โดยยังไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันเกิดเหตุ เกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อจะได้ดำเนินการติดต่อศูนย์โทรศัพท์เพื่อช่วยตามหาตัว
นายศิริชัย สามีของน้องนุ่น กล่าวว่า อยากให้น้องนุ่นกลับมา ตนเลิกน้อยใจเรื่องพวกนี้ได้แล้ว ถือว่าเห็นแก่ลูก เพราะเวลาทะเลาะกันก็จะออกจากบ้านไปแบบนี้เสมอ แต่ครั้งนี้หนีไปเพราะว่าตนพูดประชดและไม่รู้ว่าจะติดต่อยังไง
ซึ่งตนจะเป็นฝ่ายง้อน้องนุ่นตลอดตั้งแต่มีลูก เวลาทะเลาะกันน้องนุ่นก็มีจิกหัวตนบ้างมีตีคืนบ้างแต่ตนก็ยอมมาตลอด ซึ่งเคยมีทะเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลือดตกยางออก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอีกเลย เคยแจ้งความไว้แล้วนานแล้ว จนเป็นคดีติดตัวของตนในคดีทำร้ายร่างกาย
ขณะที่ น.ส.เพ็ญ อายุ 42 ปี แม่ของน้องนุ่น กล่าวว่า ตนได้ถามทางนายศิริชัยว่าเรื่องเป็นมายังไง เขาก็เล่าให้ฟังว่าทะเลาะกันแล้วน้องนุ่นได้ลงจากรถไปขึ้นแท็กซี่ จากนั้นลูกเขยจึงกลับมารอที่บ้าน เพื่อรอน้องนุ่นกลับมา แต่ก็ไม่กลับมา ตนเลยคิดว่าทำไม ณ เวลานั้นไม่ลงไปตาม หรือขับรถตามแท็กซี่คันนั้นไป เพราะตัวเองก็มีรถมันสะดวกกว่า ตอนนี้ตนมั่นใจว่าลูกสาวของตนหายตัวแต่ตนไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง
เมื่อคืนคุยกับลูกเขยแล้วเขาก็บอกว่าให้แม่ทำใจเพราะไม่รู้ว่าน้องนุ่นจะเอายังไงกับตัวเอง เพราะว่าเขาจับ GPS ครั้งสุดท้ายได้ที่แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ลูกเขยบอกกับตนว่าจะไปตามหาน้องนุ่นอีกที เรื่อง GPS ตนก็ไม่ค่อยมั่นใจ แต่เขาใช้โทรศัพท์มันสามารถจับ GPS หากันได้ แต่ระหว่างน้องนุ่นหายไปนั้นทำไมลูกเขยไม่ติดต่อญาติพี่น้อง เพื่อนที่สนิทของน้องนุ่นให้รับรู้ ตนมารู้อีกทีก็ 4 ทุ่ม เมื่อคืนนี้
ตนเลยสงสัยไม่รู้ว่าใน 1 ปีที่ผ่านมามีเรื่องทะเลาะกันไหม แต่เคยมีเพื่อนสนิทของน้องนุ่นบอกว่า น้องนุ่นกับลูกเขยเคยมีเรื่องทะเลาะกันถึงขนาดบีบคอ เอาเท้าเหยียบหน้าน้องนุ่นเป็น 10 ครั้ง ตนคิดว่าเขามีอารมณ์รุนแรง เพราะตอนที่ทำเพื่อนบอกว่าลูกเขยไม่ได้เมาเพราะเพื่อนสนิทอยู่ในเหตุการณ์ และการกระทำในครั้งนี้ของลูกเขยตน ทำให้ไม่ไว้ใจอีกแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (20 ก.พ.) เมื่อเวลา 19.00 น. ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านของนายศิริชัย สามีของน้องนุ่น ภายในหมู่บ้านดังย่านเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็น พบรถยนต์เก๋งหรู BMW สีขาว หมายเลขทะเบียน 6644 กทม จอดอยู่ภายในบ้าน
ก่อนทางตำรวจจะควบคุมตัวนายนายศิริชัย มาที่ห้องสืบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
หลังสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดในห้องสืบสวน สภ.ปากเกร็ด นานกว่า 1 ชั่วโมง ทางนายศิริชัย ซึ่งมีอาชีพขายรถยนต์มือสอง ได้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าน้องนุ่น ภรรยาตนเอง โดยใช้หินทุบหัวหลังมีปากเสียงกัน และกลับจากงานเลี้ยง ก่อนจะนำศพใส่รถเก๋งไปทิ้งไว้ที่บ้านมาบเหวียง ต.หนองโพ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียดถึงสาเหตุการฆาตกรรมในครั้งนี้