วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 พ.ต.ต.มนตรี โสรัสสะ สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งเหตุหญิงถูกทำร้ายจนเสียชีวิต บริเวณหน้าตึกคอนโด หลังโรงงานซองซิปรูด ซองซิปรูดพิมพ์ลาย ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถหน้าคอนโด พบร่างสาวใหญ่ อายุ 59 ปี นอนหงายเสียชีวิต สวมเสื้อแขนยาวสีส้มดำ กางเกงขายาวสีเทาถูกถอดลงมากองอยู่ที่เข่า ที่ศีรษะถูกทุบด้วยของแข็งจนเป็นรูขนาดใหญ่ ท้ายทอยมีรอยเฉือนด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ และที่อวัยวะเพศถูกเฉือนด้วยของมีคมคว้านออกมากองไว้ข้างศพ
ใกล้กันพบมีดทำครัวยาวประมาณ 10 นิ้ว ตกอยู่ 1 เล่ม และค้อนตอกตะปู สภาพด้ามหัก ตกอยู่ 1 อัน และมีค้อนปอนซึ่งทำจากเหล็ก ตกอยู่อีก 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วน นายขจรเดช อายุ 23 ปี อดีตทหารเกณฑ์สังกัดกองทัพอากาศ ที่เพิ่งปลดประจำการมาได้ไม่ถึงเดือน เป็นผู้ก่อเหตุ ที่มือและตามตัวเปื้อนเลือด นั่งอยู่หน้าคอนโด โดยมีผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านยืนคุมอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวนำไปสอบสวน ที่ สภ.สำโรงเหนือ
ก่อนเกิดเรื่องผู้ตายและผู้ก่อเหตุได้เดินออกมาคุยกันที่ท้ายรถกระบะซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องของผู้ก่อเหตุก่อนที่ทั้งคู่จะเดินหลุดมุมกล้องไป ผ่านไปไม่นานผู้ตายได้ล้มลงมาที่บริเวณข้างรถกระบะ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินตามออกมา ก่อนจะก้มไปใช้ค้อนทุบไปที่ผู้ตายหลายครั้ง ก่อนจะเดินมาที่หน้าตึก แล้วก็เดินกลับไปที่ศพของผู้ตายแล้วใช้ค้อนทุบไปที่ผู้ตายอีกหลายครั้ง
ก่อนจะลากศพผู้ตายมาตรงที่จอดรถที่ยังว่างอยู่ ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านท่านหนึ่งถ่ายคลิปขณะที่ผู้ก่อเหตุกำลังถอดกางเกงผู้ตายก่อนจะใช้มีดแทงไปที่ผู้ตาย ก่อนจะมายืนดูผู้ตายอยู่กลางถนน
จากการสอบถาม นางกัญญา อายุ 37 ปี คนเห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ผู้ตายทำงานเป็นลูกจ้าง ทำหน้าที่กวาดถนน อยู่เทศบาล ปกติผู้ตายจะชอบเดินทางมาดื่มเหล้ากับพวกตน อยู่ที่ร้านขายของชำใต้คอนโดอยู่เป็นประจำ
กระทั่งวันนี้ผู้ตายมาดื่มเหล้าที่ร้าน ก่อนที่จะไปนั่งคุยกับคนก่อเหตุที่หน้าห้องซึ่งอยู่บริเวณชั้น 1 ก่อนจะเกิดมีปากเสียงกัน
ขณะนั้นผู้ตายต่อว่าผู้ก่อเหตุด้วยคำหยาบและด่าไปว่า มึงเป็นอะไรเมายาบ้าหรือเปล่า แต่ตนเองไม่สนใจจึงเดินขึ้นไปอาบน้ำบนห้อง ผ่านไปเกือบชั่วโมง ขณะที่ตนลงมาจากห้องพัก พบเห็นคนแตกตื่น และบอกว่ายายแดงถูกฆ่าตาย แต่ขณะนั้นไม่มีใครกล้าเข้าไป เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังอยู่หน้าคอนโด กระทั่งที่เจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงและคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้
นายจำลอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 กล่าวว่า ผู้ตายพักอยู่ชั้นล่าง แต่ก่อนเคยเปิดเป็นร้านซ่อมแอร์ โดยผู้ก่อเหตุเพิ่งพ้นจากทหารเกณฑ์ออกมาได้ประมาณ 1 เดือน ก่อนจะมาพักอยู่กับพ่อ ตั้งแต่มาอยู่ ผู้ก่อเหตุชอบพูดคนเดียว และมีอาอาการแปลก ๆ
กระทั่งวันนี้ผู้ตาย มาดื่มเหล้าที่ร้านขายของชำใต้คอนโดจนเมา ก่อนที่จะเห็นผู้ตายเข้าไปคุยกับผู้ก่อเหตุ และเกิดมีปากเสียกันจนถึงขั้นลงมือก่อเหตุ
ทางด้านลูกชายของผู้ตาย หลังทราบข่าวได้มายังที่เกิดเหตุเจ้าตัวถึงกับแทบเป็นลมหลังทราบว่ามารดาของตนเองถูกฆาตกรรมจนเสียชีวิต บอกว่าตนเองกับมารดาพักอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งนี้มานานหลายปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องหรือทะเลาะอะไรกับคนก่อเหตุ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ตนเองยังไม่ทราบเลยว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร อยากถามเหมือนกันว่าทำไมถึงฆ่าแม่ถึงขนาดนี้
ด้านนายขจร ผู้ต้องหา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนนอนอยู่ในห้อง ระหว่างนั้นผู้ตายเดินถือขวดเหล้าขาว เข้ามานั่งกินที่หน้าห้อง เนื่องจากตนเองเปิดประตูหน้าเอาไว้ ต่อมาตนจึงไล่ให้ไปดื่มที่อื่น เนื่องจากไม่รู้จักกัน แต่ผู้ตายยังเร้าหรือมาขอบุหรี่ดูดซึ่งตนเองก็ให้ไป และบอกให้ไปที่อื่น
ระหว่างตนเองไล่ผู้ตายกลับมาต่อว่าตนเองและพูดจาไม่เข้าหู และด่าด้วยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหตนจึง ไปหยิบเอาค้อนตอกตะปูมาทุบหัวจนด้ามหัก ก่อนจะหยิบค้อนปอนมาทุบซ้ำอีกหลายครั้ง ก่อนจะลากศพไปบริเวณหน้าร้านขายของชำ ซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 10 เมตร และใช้มีดแทงคอซ้ำ และลงมือใช้มีดเฉือนอวัยวะเพศเอามากองไว้ข้างศพ
ส่วนที่ทำไปนั้น เพราะความโมโหที่ผู้ตายมานั่งกินเหล้าที่หน้าห้อง โดยที่ตนเองไม่รู้จักกับคนตายมาก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้คุมตัว นายขจร ผู้ต้องหา มาตรวจสารเสพติดในร่างกายไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด
ส่วนจะเข้าข่ายเป็นจิตเวชเวรหรือไม่นั้นจะต้องรอทางครอบครัวมายืนยันอีกครั้งว่ามีประวัติการรักษาที่ไหนหรือไม่อย่างใด ทั้งนี้หลังสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าคนตายโดยเจตนาเอาไว้ก่อน จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป