ตำรวจทางหลวง รวบหนุ่มหัวหมอ ใช้บัตร 2 ใบ โกงค่าทางด่วนมอเตอร์เวย์ ก่อเหตุมาแล้ว 14 ครั้ง
(20 ก.ค.65) ตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง แถลงผลการจับกุม ผู้ใช้ทางหัวหมอโกงค่าทางด่วนมอเตอร์เวย์ โดยเก็บบัตรอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางมอเตอร์เวย์ไว้หลายใบ เพื่อใช้เวียนในการจ่ายค่าธรรมเนียมในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง
สืบเนื่องจากหน่วยสอบสวนตำรวจทางหลวงมาบประชัน ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ประจำด่านเก็บค่าผ่านทางอู่ตะเภา ถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้ใช้ทางรายหนึ่ง คือใช้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 หรือ มอเตอร์เวย์เส้นทางกรุงเทพ-อู่ตะเภา ซึ่งผู้ใช้ทางจะต้องรับบัตรจากตู้จ่ายบัตรอัตโนมัติจำนวน 1 ใบ แล้วนำไปชำระค่าบริการด่านเก็บค่าผ่านทางปลายทาง ซึ่งมีการเรียกเก็บค่าบริการตามระยะทางที่ใช้จริง ซึ่งผู้ใช้ทางรายดังกล่าวได้ขับรถยนต์กระบะสีเทา ทะเบียนระยอง ซึ่งใช้บริการต้นทางที่ด่านอู่ตะเภา มีพฤติการณ์กดรับบัตรผ่านตู้จ่ายบัตรอัตโนมัติครั้งละ 2 ใบ อยู่เป็นประจำ
ตำรวจทางหลวงจึงสืบสวนหาข่าวจนพบว่า ผู้ใช้ทางคนดังกล่าว ก่อเหตุครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 และก่อเหตุครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 14 ครั้ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง จังหวัดระยอง และขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดระยอง ได้ในเวลาต่อมา
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมาพบผู้ใช้ทางคนดังกล่าวขับรถยนต์กระบะ ไปที่ด่านอู่ตะเภา มุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพมหานคร จึงได้ติดตามและเรียกให้จอดที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางบางปะกง พบนายธีรภัทร์ ผู้ขับขี่ เป็นเจ้สของร้านขาย ฟิล์มยืด ฟิล์มยืดพันพาเลท และเป็นบุคคลตามหมายจับ ตรวจค้นในรถพบของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางมอเตอร์เวย์ จากด่านต่างๆจำนวน 20 ใบ
พันตำรวจโท ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า แรกเริ่มเดิมทีผู้ต้องหารายนี้ รู้เทคนิคการโกงค่าทางด่วนมาโดยบังเอิญ เนื่องจากมีอยู่ครั้งหนึ่ง ผู้ต้องหาได้กดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ทางด่วนจากด่านอู่ตะเภา ได้บัตรมา 2 ใบ จากนั้นก็เก็บอีกหนึ่งใบไว้จนลืม จนกระทั่งมีโอกาสได้กลับมาใช้เส้นทางเดิมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ขากลับเกิดสับสนหยิบบัตรอิเล็กทรอนิกส์อันเก่าที่วางไว้ในรถ คืนให้กับเจ้าหน้าที่เก็บเงินผ่านทางที่ด่านใกล้เคียงกับด่านอยู่ตะเภา ซึ่งจ่ายค่าธรรมเนียมเพียง 10 บาท น้อยกว่าความเป็นจริง ทั้งที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร จึงปิ๊งไอเดียผิดๆ ใช้วิธีการเช่นนี้มาโดยตลอด เพื่อให้ประหยัดค่าทางด่วน
ซึ่งจากการตรวจสอบยังพบว่ามีผู้ใช้ทางที่มีพฤติกรรมคล้ายกับผู้ต้องหารายนี้ประมาณ 4 ถึง 5 ราย แต่ก่อเหตุไม่บ่อยครั้งเท่ารายนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามพฤติการณ์รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป
นายบุญเพิ่ม เรียนไธสง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียม กรมทางหลวง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สามารถกดรับบัตรได้ 2 ใบ ในกรณีที่มีรถลากจูง ผ่านด่าน แต่จากนี้จะแก้ปัญหาโดยการจะยกเลิกไม่ให้มีการกดรับบัตรได้มากกว่า 1 ใบ ต่อรถ 1 คัน ส่วนรถที่ลากจูงนั้นจะให้หอบังคับการทางหลวงมอเตอร์เวย์คอยสังเกตการณ์ เพื่อจ่ายบัตรเพิ่มเติมให้เป็นกรณีไป
สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ มีมูลค่าความเสียหายเพียง 3,780 บาท แต่ไม่คุ้มกับการถูกดำเนินคดี หากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในอนาคต จึงฝากเตือนว่าพฤติกรรมดังกล่าว ถือเป็นการทำผิดกฎหมาย ไม่ควรลอกเลียนแบบ เพราะไม่พ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจทางหลวงได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง ดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และ ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ
