วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 03.00 น. พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองนครพนม พร้อมด้วย ร.ต.ท.(หญิง)ปาริฉัตต์ ทาบทอง รองสารวัตรสอบสวนฯ เจ้าของคดี ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นำศพผู้เสียชีวิตคือ นางน้ำผึ้ง ตะลาใส อายุ 42 ปี แม่บ้านโรงงานกระดาษห่อพัสดุ กระดาษห่อของ กรณีเสียชีวิตปริศนาภายในบ้านพักเลขที่ 191 หมู่ 7 บ้านนาหัวบ่อ ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อนำส่งชันสูตรเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตโดยละเอียด ที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น หลังญาติติดใจการเสียชีวิต โดยไม่เชื่อว่าเป็นการคิดสั้นผูกคอตาย เนื่องจากนิสัยพื้นฐานของนางน้ำผึ้งเป็นคนร่าเริง ไม่มีสัญญาณใดบ่งบอกว่าจะอัตวินิบาตกรรม
ทั้งนี้มีเงื่อนงำและพบข้อพิรุธหลายอย่าง จากชายเพื่อนบ้านนายคึกฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุประมาณ 42 ปี อ้างว่าไปพบโดยบังเอิญช่วงกลางดึก โดยเห็นนางน้ำผึ้งใช้ผ้าขนหนูผูกคอกับราวเหล็กแขวนผ้าในห้องน้ำ ก่อนที่จะทุบกระจกบ้านเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าไปตรวจสอบเก็บรอยนิ้วมือแฝง ไว้สรุปประกอบการดำเนินคดี และนำหลักฐานเหล่านั้นมาเทียบเคียงกับผู้ต้องสงสัยอีกครั้ง
เบื้องต้นในส่วนของการดำเนินคดี ทีมพนักงานสอบสวนได้มีการสอบสวนผู้ต้องสงสัยรายแรก คือนายคึกฤทธิ์คนที่เข้าไปพบเห็นผู้เสียชีวิต และอ้างว่าเข้าไปช่วยเหลือชีวิต โดยนำร่างออกมาจากห้องน้ำมาวางไว้บนโซฟาเพื่อปั้มหัวใจแต่เสียชีวิตแล้ว
ซึ่งจากการสอบปากคำนายคึกฤทธิ์ยังให้การวกวน และขัดแย้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังอยู่ระหว่างการรวบรวม ตรวจสอบพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังสอบปากคำพยานแวดล้อมมากกว่า 10 ปาก รวมถึงญาติผู้เสียชีวิต ที่ให้การสอดคล้องกันว่านางน้ำผึ้ง มีฐานะดีคนหนึ่งในหมู่บ้าน เพราะสามีทำงานเป็นวิศวกรด้านคอมพิวเตอร์ในบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม. โดยบ้านหลังที่เกิดเหตุเพิ่งสร้างเสร็จเพียงไม่กี่เดือน และเป็นหลังแรกที่ปลูกโดดเด่นกลางทุ่งนา ที่อยู่ในระหว่างการตัดถนนสายใหม่ เพื่อเชื่อมกับเขตเศรษฐกิจพิเศษสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน)
อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือของนายคึกฤทธิ์ เบื้องต้นพบว่ามีการลบข้อมูลการแซทกันระหว่างผู้ตายออกไป ในขณะที่โทรศัพท์มือถือของนางน้ำผึ้งพบภาพเซลฟี่ ใช้ผ้าขนหนูสวมคอตัวเองบันทึกไว้ในฐานข้อมูล จึงส่งโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องให้ฝ่ายเทคโนโลยี่ด้านไอที ตำรวจภูธรภาค 4 ดำเนินการกู้ข้อมูลกลับคืนมา
จากข้อสงสัยของญาติ คือ นายคึกฤทธิ์ไปที่บ้านหลังนี้ทำไม ทั้งๆที่เป็นช่วงยามวิกาล อีกทั้งบ้านของนายคึกฤทธิ์ก็อยู่ห่างบ้านหลังนี้ราว 500 เมตร หลังพบเหตุการณ์แล้วทำไมไม่รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน กลับขับรถไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ที่อยู่ห่างเกือบ 20 กิโลเมตร แล้วทำทีร้องไห้ฟูมฟายปานจะขาดใจตาย แต่ไม่มีน้ำตาสักหยด
ด้าน พ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองนครพนม ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวน เปิดเผยว่า จากกรณีการเสียชีวิตของหญิงสาวดังกล่าว ทางญาติยังติดใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากในการให้ปากคำของชายเพื่อนบ้านที่พบผู้เสียชีวิตคนแรก พบว่ามีเงื่อนงำและมีความขัดแย้งหลายอย่าง อย่างไรก็ตามทางตำรวจได้ มีการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยละเอียด ทั้งรอยนิ้วมือแฝง ไล่เช็คกล้องวงจรปิดทั้งที่บริเวณบ้าน และตามเส้นทางที่ติดตั้งไว้ รวมถึงการสอบสวนพยานแวดล้อมทุกปาก เพื่อนำมาเทียบเคียงผลชันสูตรการเสียชีวิต แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อหาผู้ต้องสงสัย ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน เบื้องต้นมุ่งปมฆาตกรรม เพราะมีเงื่อนงำ และพบพิรุธหลายอย่างในการเสียชีวิต มากกว่าสาเหตุคิดสั้น ส่วนทรัพย์สินของผู้เสียหาย ยังไม่มีญาติยืนยันว่ามีทรัพย์สินของมีค่าสูญหาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และรอผลชันสูตรจาก รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น